Search

วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์การสอบ #ทุนฝึกงานIAESTE ...

  • Share this:

วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์การสอบ #ทุนฝึกงานIAESTE นะคะ #สายวิศวะ #ฝึกงานประเทศเยอรมัน #ย้ายประเทศกันเถอะ

เนื่องจากช่วงนี้มีน้องๆ ส่งข้อความมาถามเยอะมากเกี่ยวกับประสบการณ์การสอบทุน และได้ทุนฝึกงานของ IAESTE

ทุนฝึกงาน IAESTE เป็นทุนแลกเปลี่ยนฝึกงานด้านเทคนิคสำหรับเด็กมหาวิทยาลัยทั่วโลก ซึ่งจะมีหลากหลายสาขามากมาย แต่ที่มีเยอะคือพวกสาขาสายวิทยาศาสตร์และวิศวะต่างๆ และระยะเวลาทุนส่วนใหญ่ก็จะตั้งแต่ 2 เดือนไปจนถึงปีนึง จึงเหมาะมากกับการฝึกงานช่วงปิดเทอม ซึ่งสำนักงานไอเอสเต้ของประเทศไทยอยู่ที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งมักจะเปิดรับสมัครสอบประมาณช่วงๆเดือนกรกฎาของทุกปี น้องๆนักศึกษาปี 3-4 ลองเข้าไปดูสาขาที่เปิดทุนได้ที่ลิ้งนี้นะคะ https://iaeste.kmutnb.ac.th/2020/

ไอเอสเต้จะว่าเป็นทุนก็ไม่เชิง เพราะเงินที่เราได้ คือเราได้จากนายจ้างของประเทศนั้นๆ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเทศและนายจ้าง ซึ่งเราก็จะเอาเงินเดือนที่ได้นั้นไปบริหารเอง เป็นค่าที่พัก ค่ากิน ค่าเที่ยวอะไรก็ว่าไป และพวกค่าเครื่องบิน ค่าวีซ่า เราก็ต้องออกเองอยู่ดี เหมือนเขาให้โอกาสเราไปฝึกงานมากกว่า แต่เนื่องจากประเทศไทยมีทุนค่อนข้างน้อย และมีนักศึกษาสนใจเยอะมาก เลยต้องมีการจัดสอบคัดเลือกเกิดขึ้น เพื่อให้ไอเอสเต้ประเทศไทยเสนอเราเป็นตัวแทนของประเทศ แต่นายจ้างจะรับเรามั้ยนั้นก็ขึ้นอยู่กับเขาอีกที เอาง่ายๆว่าการสอบที่ประเทศไทยนั้น เพื่อแข่งกับนักศึกษาไทยคนอื่น เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยนั่นเอง

ยู่ยี่ในฐานะนักศึกษาทุนเก่าของไอเอสเต้ จะขอมาแชร์ประสบการณ์การสอบพิชิตทุนนี้กันนะคะ (ยู่ยี่ได้ทุนตอนปี 2015 ของสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ประเทศเยอรมันนะคะ)

การสอบทุนไอเอสเต้จะแบ่งออกเป็น 2 รอบ

- รอบแรกคือสอบรวมทุกสาขา สอบภาษาอังกฤษ เพื่อคัดคนเข้าสอบออกประมาณครึ่งนึง ซึ่งข้อสอบจะแบ่งออกเป็นสองพาร์ท พาร์ทแรกคือกากบาท และพาร์ทสองคือเขียนเรียงความสั้นๆ พาร์ทนี้คือทดสอบภาษาอังกฤษล้วนๆ

- รอบสอง คือจะสอบแยกตามสาขาที่เราสมัคร เช่น ถ้าสาขาวิศวะไฟฟ้ามีคนผ่านรอบแรกมา 20 คน แต่มีทุนของสาขานี้มาแค่ 5 ทุน (แต่ละสาขามีจำนวนทุนไม่เท่ากันนะคะ และประเทศก็จะไม่เหมือนกันทุกปี คือแล้วแต่ดวงด้วย 55) เท่ากับว่าเราต้องแข่งกับคนในสาขาเดียวกับที่เราสมัครเพื่อเป็นหนึ่งในห้า ซึ่งทีนี้ก็แล้วแต่ดวงแล้วว่าคู่แข่งเราจะแข็งแกร่งแค่ไหน
การสอบรอบนี้จะเป็นการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองพาร์ท พาร์ทแรกคือสัมภาษณ์วัดความสามารถภาษาอังกฤษกับฝรั่ง บอกเลยนะ พาร์ทตัดสินคะแนนของจริง ส่วนพาร์ทที่สองเป็นการสัมภาษณ์ความรู้สาขาของเรา กับอาจารย์คนไทย ซึงไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น อาจารย์เขาแค่ต้องการจะรู้ว่าเรารู้มั้ยว่าตัวเองเรียนอะไรอยู่ 55 ซึ่งปียู่ยี่อาจารย์แค่ถามว่าชอบวิชาอะไรที่สุด ซึ่งยู่ยี่ตอบว่าวิชาแมชชีน (เครื่องจักรกลไฟฟ้า) อาจารย์เลยให้เลือกแมชชีนที่ชอบที่สุดมาเครื่องนึง แล้วอธิบายว่ามันทำงานยังไง ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น

ซึ่งการคัดเลือกนั้นเขาจะให้คนที่มีคะแนนสูงสุดเลือกประเทศก่อน แล้วก็คนที่คะแนนอันดับสอง เลือกต่อเรื่อยๆ

ปีที่ยู่ยี่สอบมีทุนของสาขาไฟฟ้า 5 ทุน จาก 5 ประเทศ คือ เยอรมัน เซอเบีย มาซิโดเนีย จีน อีกประเทศยู่ยี่ลืมแล้ว 55 ประกาศผลคะแนนออกมายู่ยี่สอบได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของสาขา เลยเลือกได้เลือกประเทศเยอรมันไป และได้ไปฝึกงานที่ TU Dresden ภาควิชาแมชชีนในที่สุด ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตมาก ได้เจอเพื่อนจากไอเอสเต้ด้วยกัน เพื่อนเยอรมัรในคณะที่ไปฝึกงานที่บังเอิญรู้จักกันตอนไปปาร์ตี้และก็สนิทกัน คือสนุกที่สุดในชีวิตแล้ว เลยได้ตั้งเป้าหมายว่าจะกลับไปเรียนปริญญาโทต่อที่มหาลัยนี้ และตอนนี้ก็ได้เป็นนักศึกษาปริญญาโทของ TU Dresden สำเร็จแล้ว 55

ถ้าถามยู่ยี่ว่าทำยังไงถึงจะสอบทุนนี้ได้ คำแนะนำเดียวของยู่ยี่คงเป็น

"ฝึกภาษาอังกฤษให้ปังที่สุด"

เพราะโดยส่วนตัวถ้าเอาวิชาวิศวะเข้าสู้ บอกเลยว่าสู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะปีที่ยู่ยี่ไปสอบมีแต่เพื่อนเทพภาคไปสอบทั้งนั้น ซึ่งสู้เขาไม่ได้แน่นอน แต่ด้วยความที่คิดว่า ต่อให้วิชาวิศวะสู้ไม่ได้ แต่ภาษาอังกฤษฉันก็มั่นหน้ามั่นโหนกไม่เบา ฝึกให้ปัง ปังที่สุด!! เป็นตัวของตัวเอง อย่ามานั่งอายๆ เกร็งๆ มีความมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ เราไปฝึกงาน ไม่ได้ไปสอบโอลิมปิก เขาไม่ได้มองหาคนที่เก่งวิชาการที่สุด แต่เขามองหาคนที่จะ survive ในประเทศนั้นๆได้ ตั้งแต่สมัครจนถึงสอบ จนถึงได้ทุน ยู่ยี่ไม่ยื่นเกรด ไม่โชว์เกรดตัวเองเลยสักครั้ง แค่โชว์ว่าเรียนวิชาอะไรมั่งเท่านั้น เพราะฉะนั้นเกรดไม่ได้สำคัญเลย

อยากให้น้องๆทุกคนที่มีคุณสมบัติตามที่เขากำหนดไปสอบเถอะนะ

จงไปสอบ

เป็นประสบการณ์ที่ดีหาจากที่ไหนไม่ได้แน่นอน

รัก

ยู่ยี่ <3 (IAESTE GERMANY 2015)

#ทุนไอเอสเต้
#ทุนIAESTE
#ทุนฝึกงานต่างประเทศ


Tags:

About author
เด็กจบวิศวะไฟฟ้า ที่ดันรักการสอนภาษา
เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองใครว่าเป็นไปไม่ได้.
View all posts